วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หนาวเนื้อห่มเนื้อ...ไม่หายหนาว

หน้าหนาวแล้วเนอะ ลมหนาวพัดมา วิ้วๆ วิ้วๆ
ปอยไม่ชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้เราไม่อยากไปไหน แม้แต่ไปทำงาน
อยากอยู่แต่ในผ้าห่ม นอน นอน นอน นอน และนอน

อยากไปเที่ยว มากกว่าทำมาหากิน
หน้าหนาวทำให้ผิวที่แตกอยู่แล้ว แตกมากกว่าเดิม แถมยังคันอีกด้วย

และหน้าหนาวทำให้ อยากกินเบียร์สด...ฮาาาาาาาา

สมัยเด็กๆ ปอยจำได้ว่าหน้าหนาวที่บ้าน หนาวอย่างกับตู้แช่ไก่
ตื่นเช้ามา พอก้าวเท้าลงจากเตียงนอน อะโหยยยย พื่นงี้เย็นเฉียบ
นี่ใครเอาน้ำแข็งมาราดพื้นห้องตรูฟร๊ะ


หน้าหนาวทำให้เราชอบแดด อยากให้แดดมันออกทั้งวันทั้งคืน เราจะได้ไปยืนตากแดดให้มันอุ่น

พอโตขึ้น หน้าหนาวในความทรงจำเริ่มหายไป
กลายเป็นเพียงการรอคอย และคอยลุ้น ว่าปีนี้จะหนาวกี่วัน

ปอยมีโอกาสได้ไปเชียงรายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ได้ไปสัมผัสกับหน้าหนาวจริงๆที่เชียงราย ซึ่งหนาวทั้งวัน ทั้งคืน


ผู้เฒ่าผู้แก่ ยังคงดำเนินชีวิตแบบชาวชนบทแท้ๆ...ปอยได้รับการต้อนรับโดยการที่

ชาวบ้านแถวนั้น ทำ "ลู่" อาหารรับแขกของชาวเหนือให้ปอยกิน
ลู่ เป็นเลือดวัวสดๆ เอามาผ่านกรรมวิธีหลายขั้น หลายตอน
ใส่เนื้อสดสับละเอียด กระเทียมเจียว และเครื่องเทศดับคาว นานาชนิด

ปอยจำใจต้องกลายร่างเป็นกระสือ เพื่อกินลู่


น่าแปลกมากที่ กลิ่นคาวเลือดไม่มีสักนิด แต่กลับได้กลิ่นหอมของนมและน้ำกระทิมาแทน
ทั้งๆที่ลู่ที่ปอยกิน สีมันแดงสด
รสชาติของมันก็ หวาน หอม เหมือนกินนมสีเลือดที่ใส่กระเทียมเจียว ยังไง ยังงั้น

ปอยไปเชียงรายหนนั้น ปอยไปงานทอดผ้าป่าเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ ที่วัด???...จำชื่อวัดไม่ได้ซะงั้น

ที่เชียงรายเค้าทำต้นผ้าป่ากันแบบนี้





แปลกดีเนอะ ถ้าเป็นบ้านเราก็คงใช้กระป๋อง ที่ถวายวัดไปแล้วพระเห็นเป็นของเหลือใช้

ปอยไม่ได้เป็นคนเคร่งครัดบุญทานอะไรนักหรอก ถึงแม้ว่าจะมีพ่อเป็นถึงรองเจ้าอาวาสก็ตาม

ปอยชอบทำทานมากกว่าทำบุญ ทำทานมันสุขใจ แต่ทำบุญมันงงงวย
งงว่า ทำไมเราต้องทำบุญไปให้พระท่านซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้ด้วย ฟร๊ะ

ปอยไปเชียงรายคราวนั้น ไปตามคำเชิญของพี่สิงหา หัวหน้าช่างสีที่บริษัทปอย
ไอ้จะขัดก็เสียน้ำใจ ไอ้จะไม่ไปก็ไม่รู้จะทำอะไร
อยู่บ้านก็เบื่อ...ไหนๆก็ไหนๆ ไปปล่อยผีที่เชียงรายท่าจะดี

เราไปนอนบ้านชาวบ้าน ปอยอ่ะนอนบ้านพี่สิงหา
ได้บรรยากาศสุดๆ เพราะเป็นบ้านไม้ มีนอกชานแบบชาวเหนือ เตาทำกับข้าวบ้านแกยังเป็นเตาแกลบอยู่เลย


ห้องน้ำพื้นก็เป็นดินแข็งๆ ตักน้ำอาบแต่ละที เหมือนเอาเข็มนับพันๆเล่มมาไล่แทง
ไอ้ครั้นจะไม่อาบก็อายเจ้าของบ้าน เดี๋ยวจะหาว่าเราสะอาดเกินไป

ปอยไปทำบุญแค่เดี๋ยวเดียว นอกนั้นก็ไปเที่ยวซะส่วนมาก
เดินไปเดินมาตามตลาด ไปขึ้นภูชี้ฟ้าที่ไม่รู้ไปขึ้นทำไม ให้ปวดน่อง
คนงี้อย่างยั้วเยี้ยๆกับหนอน

พระอาทิตย์สวยเหรอ อืมสวย แต่ไม่สวยเท่าภูอื่นๆ
เพราะภูชี้ฟ้า ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ต่างจากสนามหลวง ที่มีหัวมนุษย์เป็นจุดๆๆๆ

ปอยชอบไปเดินตลาดต่างจังหวัดมากกว่า เราจะได้เห็นของแปลกๆ คนแปลกๆ

อาหารแปลกๆ ที่เราน่าจะลองกินสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อที่เราจะไม่แปลก

เดินๆอยู่ในละแวกหมู่บ้านที่เรานอนพักก็ เจอคุณตาคนหนึ่ง นอนคุดคู้ ตากแดดอยู่ตีนบันไดบ้านแก (มั๊ง)




คุณตาทำให้นึกถึงปู่ที่บ้าน (อีกแล้ว) ปู่ปอยนอนในผ้านวมใหญ่เบ้อเร่อ
ที่นอนนุ๊มนุ่ม..อาหาร3มื้อ เสริฟถึงที่...
....
ปอยสงสัยทำไมคุณตามานอนนอกบ้าน บ้านใครวะ บ้านแกรึเปล่า
ผ้าห่มสักผืนก็ไม่มีห่ม...ทั้งๆที่อากาศหนาวเหน็บ

หลังจากเจอคุณตา 1 วัน ปอยก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์ ก็ได้ข่าวว่า คุณตาเสียชีวิตหลังจากที่พวกเรากลับกรุงเทพฯมาได้ 2 วัน

ด้วยโรคอะไร ปอยก็ไม่ได้ไปสอดรู้ขนาดนั้น

แต่ข่าวนั้น ทำให้ปอยรู้สึกว่า หนาวลมห่มอากาศ...มันหนาวสั่น

ดีแค่ไหนแล้วคะ ที่เรามีหลังคาคุ้มหัว มีผ้าห่มกันหนาว
มีอาหารบำรุงร่างกาย มีสุราไว้แกล้มยามเหงา และยังมีชีวิตเดินไปเดินมาได้อยู่

ดีแค่ไหนแล้ว ที่ยังมีลมหายใจ



--