วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ความน้อยใจ ...หายไป‏

ผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง
และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น
แต่สามีเธอก็พยายามปลอบใจ และให้กำลังใจเธอตลอด
พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น

ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทางแต่เขาก็ขับรถไปส่งและไปรับอยู่เสมอ
จนวันหนึ่งสามีเธอพูดกับเธอว่า

"ผมรู้สึกเหนื่อย อยากให้คุณลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง"
โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ใหม


นาทีนั้น
?.. ..............
เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยวและน้อยใจสามีเธอแต่เธอก็พยายามทำตามที่เขาขอ

เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง
จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้

วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ
คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า "ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆครับ"


เธอก็เลยถามว่า "อิจฉาเธอเรื่องอะไร"
คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า "สามเดือนที่ผ่านมา ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า มานั่งตรงเบาะหลังคุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใยและตามคุณลงรถไป
และเฝ้าดูคุณเดิน....เข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย
ทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ และคอยดูคุณจนคุณลงรถ"


พอเธอได้ยินดังนั้น เธอก็น้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน..และสำนึกผิด

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน
เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด
เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอยมารับมาส่งเธอซะอีก


เธอหวนนึกถึงคำพูดเขาที่บ่นลอยๆออกมาบ่อยๆว่า
ชีวิตคนไม่แน่นอน อาจตายวันนี้ พรุ่งนี้ ได้ทุกเมื่อเลยนะ..


ดูอย่างคุณสิ...เมื่อวานยังมองเห็น วันนี้ คุณมองไม่เห็นแล้ว....


เธอคิดน้อยใจเขามาตลอด
3 เดือน ที่คิดว่าเขาเบื่อรำคาญการเป็นคนตาบอดของเธอ...

ณ.วันนี้เธอรู้แล้วว่า ....เขากลัวว่า
วันนี้ พรุ่งนี้ เขาจะตายไป...แล้วเธอจะไม่สามารถ ไปไหนมาไหน
หรือมีชีวิตอยู่เองได้ถ้าขาดเขา



หวังว่าทุกคนที่อ่านเรื่องนี้แล้ว


ช่วยกลับไปมองความรักของเราอีกทีว่า
ทุกวันนี้เรารักเขาหรือเธอแบบไหน


พ่ออยากมั่นใจว่า เมียและลูกจะอยู่ได้แม้ไม่มีพ่อ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิต หลังความตาย

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ
"ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ


1.
ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ

2.
ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว

3.
ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท



-
ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)

-
หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

-
จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ

-
ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก


เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน
?

ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่



วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก
8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด

หลังจากที่คนเราตายประมาณ
1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพ

เรามาดูปรากฏการณ์
49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น

เจ็ดวันรอบแรก


วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย


เจ็ดวันรอบที่ สอง


เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย


เจ็ดวันรอบที่ สาม


เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด


เจ็ดวันรอบที่ สี่


เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์


เจ็ดวันรอบที่ ห้า


วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์


เจ็ดวันรอบที่ หก


เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา


เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด


เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว.


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ...

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สิ่งที่ผู้หญิง แตกต่าง จากผู้ชาย‏

















วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความห่างไกล วัดความผูกพัน

มีคนบอกว่า ... ฟ้าดินลงโทษเขาให้ห่างไกลกับคนรัก

ฉันกลับคิดว่า ... ฟ้าดินกำลังสงสัยคู่นี้ว่า

... เขารักกันจริงหรือป่าวต่างหาก ...

เลยทดสอบโดยแยกคนนึงไปทาง ... อีกคนไปทาง

คงมีใครบางคนมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ

ถ้าเราคิดว่ามันเป็นการทดสอบว่าเราเลือกถูกคนรึป่าว

ความห่างไกล ... จะเป็นตัววัดปริมาณความผูกพันที่เรามีต่อกัน

ถ้าเรายังรู้สึกเหมือนเดิม...แถมยังเพิ่มความห่วงใย ... ความคิดถึง ...

นั่นคือเรามีความรักที่แท้จริงให้เค้า ... เราสอบผ่าน ...

แต่ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงไป ... แรก ๆ ก็ติดต่อกันถี่หน่อย ... หลัง ๆ เริ่มห่างหาย

เค้าสอบตก ... ก็ในเมื่อปริมาณความผูกพันของเค้ามันมีไม่เพียงพอ

เราน่าจะภูมิใจในตัวเอง ... ที่เราได้เลื่อนชั้นขึ้นไป ... แม้มีใครจะสอบตก

ถ้าเค้าอยากจะขึ้นมาอยู่ข้างเรา... เค้าต้องเร่งให้สอบผ่านบททดสอบนี้ ...

แล้วก้าวขึ้นมาอยู่ข้างเราเอง ...

ถ้าเค้าไม่ผ่าน ... ก็ถือว่าเป็นบุญ ...

ที่ฟ้าดินได้คัดคนโง่ ... ออกไปจากเราแล้ว ...

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อย่าเสียใจ. . .กับสิ่งที่คุณทำ‏

เวลารักใคร . . . อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทำ
แต่ . . . จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ


เมื่อเวลาผ่านไป . . . เราอาจจะต้องมานั่งเสียใจ
ว่าวันนั้น . . . ทำไมเราไม่ทำแบบนี้
ถ้าเราทำแบบนี้ . . .เรื่องนั้นอาจจะดีกว่านี้ก็ได้


คนเราไม่อาจย้อนเวลา กลับไปแก้ไขอดีตได้
เพราะอดีตไม่เคยหวนกลับ
เวลา . . . ไม่อาจย้อนคืนโอกาส
ในเรื่องบางเรื่อง . . . อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต


ในเมื่อตอนนี้ . . . เรายังมีโอกาสทำสิ่งดีๆ
ทำเรื่องดีๆ ให้กับคนที่เรารัก . . . ก็ทำไปเถอะ
ทำไปเลย . . .ให้ไปเลย . . .


โดยเฉพาะเรื่องความรู้สึกดีๆ
ความรู้สึกห่วงหา และเอาใส่ใจให้ไปเถอะ
ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ . . . เพียงให้อย่างมีสติ
ทำแล้วไม่ทุกข์ไม่กระทบใคร . . . ให้ไปเถอะ
ทำไปเถอะ...ขอให้ทำให้ดีที่สุด..


เพราะเมื่อวันเวลาผ่านไป . . . สิ่งต่างๆ อาจผ่านพ้น
บางเรื่องอาจจบและจากไป . . . บางเรื่องอาจคงอยู่ในความทรงจำ
แต่อย่างน้อยเราได้ให้. . . ได้ทำในสิ่งที่อยู่ในใจไปหมดแล้ว
เมื่อเรามานึกถึง . . .มันจะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป