วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2552

ตะลุยเยาวราช ไหว้ 3 วัดจีน เสริมมงคล ตรุษจีน


ตะลุยเยาวราช ไหว้ 3 วัดจีน เสริมมงคลตรุษจีน

วัดมังกรกมลาวาส วัดจีนเก่าแก่ในย่านเยาวราช
ผ่านวันปีใหม่สากลไปไม่ทันไร ก็ใกล้ถึงวันปีใหม่ของชาวจีนหรือว่าตรุษจีนกันอีกแล้ว เรียกว่าเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองจริงๆ ในวันตรุษจีนปีที่ผ่านๆมาฉันก็เคยพาไปไหว้ศาลเจ้า 8 แห่งในเยาวราชมาแล้ว ในปีนี้ก็ยังคงปักหลักอยู่ย่านไชน่าทาวน์ของเมืองไทยเช่นเคย เพราะเป็นแหล่งชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่วันนี้ไม่ได้ไปเยือนศาลเจ้า แต่จะพาไปไหว้วัดจีนในย่านเยาวราชรวม 3 วัดด้วยกัน

เริ่มวัดแรกกันที่ "วัดมังกรกมลาวาส" หรือที่เรียกในภาษาจีนว่า "วัดเล่งเน่ยยี่" วัดเก่าแก่ที่มีคนแวะเวียนไปกราบไหว้กันแน่นขนัดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนอย่างนี้จำนวนคนก็ยิ่งเยอะขึ้นเป็นทวีคูณ สังเกตได้จากควันธูปหนาที่ลอยฟุ้งอยู่ภายในวัดไม่จางหาย

สำหรับชื่อจีนของวัดที่มีชื่อว่า "เล่งเน่ยยี่" นั้น เล่ง แปลว่ามังกร เน่ย แปลว่าดอกบัว ส่วน ยี่ ก็หมายถึงวัด ดังนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามวัดให้ใหม่ในภาษาไทย ที่มีความหมายครบถ้วนตามชื่อจีนว่า "วัดมังกรกมลาวาส" นั่นเอง

วัดในนิกายจีนแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงโปรดกล้าฯ ให้เลือกชัยภูมิที่ตั้งวัด และโปรดเกล้าฯให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าซ้ายร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีนก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2414 และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 8 ปี จึงแล้วเสร็จเป็นวัดสำคัญที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพศรัทธามาโดยตลอด

ผู้คนมากมายมาจุดธูปไหว้พระและเทพเจ้าต่างๆที่วัดมังกรฯ
มาพูดถึงสถาปัตยกรรมภายในวัดกันบ้างดีกว่า วัดมังกรกมลาวาสนั้นมีการวางผังตามแบบสถาปัตยกรรมจีนพื้นถิ่นทางตอนใต้ของจีน โดยมีลักษณะแบบสกุลช่างแต้จิ๋วเป็นหลัก การวางผังวัดถือตามแบบวัดพุทธศาสนานิกายมหายาน ตัวอาคารจะวางผังล้อมลาน เรียกว่า ซี่เตี่ยมกิม เป็นแบบเฉพาะของอาคารพื้นถิ่นแต้จิ๋ว

ภายในวัดเล่งเน่ยยี่นี้มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสีทองแบบจีน มีวิหารอยู่ด้านหน้า ประดิษฐานรูปท้าวจตุโลกบาลเป็นรูปหล่อเขียนสี แต่งกายแบบนักรบจีน และยังมีรูปปั้นของเทพเจ้าตามความเชื่อในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าพื้นเมืองอื่นๆ ของจีน นอกจากนั้นยังมีวิหารอีก 3 หลัง คือวิหารอวโลกิเตศวร ประดิษฐานรูปเจ้าแม่กวนอิม วิหารปฐมบูรพาจารย์ ประดิษฐานรูปเหมือนของพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร และวิหารสังฆปรินายก ประดิษฐานเซียนหลักโจ้ว ซึ่งเป็นหมู่เทพซึ่งเชื่อกันว่าจะให้ความคุ้มครอง ช่วยในเรื่องสุขภาพ การค้า และความรักได้ด้วย

กลุ่มอาคารทั้งหมดประกอบด้วยอิฐและไม้เป็นโครงสร้างสำคัญ โดยเฉพาะโครงสร้างหลังคาอุโบสถและวิหารจตุโลกบาลแสดงโครงสร้าง ขื่อ คาน ตามแบบสกุลช่างแต้จิ๋วอย่างสวยงาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาแบบจีนโบราณมีการประดับตกแต่ง อาคารด้วยกระเบื้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆประกอบเป็นลวดลายสิริมงคลตาม ความเชื่อแบบจีน มีการวาดลวดลายและแกะสลักลวดลาย ปิดทองอย่างสวยงาม มีการใช้โมเสคติดผนังทั้งหมด จัดว่าเป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่มีความสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

พระประธานในวัดบำเพ็ญจีนพรต ทำจากกระดาษ
ที่วัดมังกรกมลาวาสนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครกลัวว่าดวงปีนี้จะไม่ดีอยากจะมาไหว้ก็ขอเชิญกันได้

จากถนนเจริญกรุง ฉันเดินผ่านตลาดเยาวราชซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน เรียกว่าแทบไม่ต้องเดิน แต่ไหลตามกระแสของฝูงชนที่มาจับจ่ายใช้เงินซื้อข้าวของเตรียมไว้สำหรับงานตรุษจีนที่ใกล้จะถึงแล้วนี้ ถึงแม้ต้องเบียดเสียดกับคลื่นมหาชน แต่ฉันก็ทำใจให้เป็นเรื่องสนุก เป็นสีสันของเยาวราชที่หาที่ไหนไม่มีเหมือน

เมื่อเดินมาทะลุถึงถนนเยาวราช เดินเลียบถนนมาทางขวามือเพื่อมาที่ตรอกเต๊า หรือตรอกวัดกันมาตุยาราม เพื่อมาที่วัดจีนแห่งที่สอง คือที่ "วัดบำเพ็ญจีนพรต" หรือ "วัดย่งฮกยี่" ที่แต่เดิมนั้นเป็นเพียงวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ร้าง มีชื่อว่าย่งฮกอำ สร้างในปี พ.ศ.2338 กล่าวกันว่าสร้างโดยชาวจีนในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และต่อมาพระอาจารย์สกเห็งจาริกมาจากประเทศจีน และได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ท่านได้ปฏิสังขรณ์วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อวัดเป็นย่งฮกยี่ในปี พ.ศ.2430 และได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานนามวัดจากรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ก็พระราชทานนามมาให้ว่า "วัดบำเพ็ญจีนพรต" และยังมีป้ายพระราชทานนามวัดประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอุโบสถให้ได้เห็นกันอยู่จนปัจจุบัน

พระอรหันต์ 18 องค์บริเวณด้านข้างพระประธานในวัดบำเพ็ญจีนพรตก็เป็นกระดาษเช่นกัน
วัดบำเพ็ญจีนพรตถือว่าเป็นวัดจีนที่มีขนาดเล็กมากๆ เพราะสภาพที่ตั้งวัดนั้นเป็นคล้ายตึกแถวในซอยเล็กๆ ล้อมรอบด้วยอาคารพานิชย์ หากมองจากภายนอกเข้ามาก็แทบจะไม่รู้ว่ามีวัดอยู่ในซอยนี้

เมื่อเดินเข้ามาในวัดบำเพ็ญจีนพรตแล้ว ก็จะได้พบกับพระเมตไตรยโพธิสัตว์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอุโบสถเป็นอย่างแรก พระอุโบสถของวัดนั้นก็เล็กไปตามขนาดวัด คือมีความกว้าง 7.80 เมตร ยาว 10.20 เมตร เท่านั้นเอง ตัวอาคารโครงสร้างไม้แบบจีนผนังก่ออิฐฉาบปูน หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้องดินเผากาบกล้วยแบบจีน สันหลังคาก่ออิฐปั้นปูน เป็นจั่วปั้นลมตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ตามสกุลช่างจีนแต้จิ๋ว

พระเมตไตรยโพธิสัตว์ ด้านหน้าวัดบำเพ็ญจีนพรต
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ องค์ประดิษฐานอยู่ตรงกลางคือพระศากยมุนีพุทธเจ้า องค์พระศาสดาแห่งโลกปัจจุบัน องค์ทางขวาของพระศากยมุนีคือพระอมิตาภะพุทธเจ้า และองค์ทางซ้ายของพระศากยมุนีคือพระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า หากมองดูแต่ภายนอกอาจจะคิดว่าพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ก็หล่อด้วยโลหะตามปกติ แต่จริงๆแล้วองค์พระพุทธรูปนั้นทำจากกระดาษ หรือที่เรียกว่าเปเปอร์มาเช่ แล้วลงรักปิดทองจนดูเหมือนเป็นพระพุทธรูปหล่อ นอกจากนั้นแล้ว หากลองมองทางด้านข้างทั้งสองข้างของพระประธาน ก็จะเห็นพระอรหันต์ 18 องค์ในอิริยาบถต่างๆ กัน พระอรหันต์ทั้ง 18 องค์นั้นก็ทำจากกระดาษเปเปอร์มาเช่ด้วยเช่นกัน

นอกจากจะไหว้พระและเทพเจ้าในพระอุโบสถแล้ว เราก็ยังสามารถเดินขึ้นไปยังชั้นบนของตัววัด ซึ่งมีเทพเจ้าต่างๆให้กราบไหว้กัน โดยบนชั้นสามนั้นจะมีรูปปั้นขนาดเล็กของเทพเจ้าจีนต่างๆ ส่วนชั้นสี่ประดิษฐานพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และป้ายวิญญาณของบูรพาจารย์อดีตเจ้าอาวาสทั้งหลาย ส่วนชั้นห้านั้นก็ประดิษฐานพระอวโลกิเตศวร และพระพุทธรูปพระศากยมุนีพุทธเจ้า ใครที่สนใจก็สามารถมากราบไหว้กันได้ตามศรัทธา

พระประธานงดงามในวัดโลกานุเคราะห์
เดินออกจากตรอกเต๊า ข้ามถนนเยาวราชมาอีกฝั่งหนึ่ง มองหาป้ายร้านทองเล่งหงส์ เมื่อเจอแล้วเดินเลี้ยวเข้าซอยใกล้ๆนั้น เดินเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีหนึ่ง หรือจะเดินเข้ามาทางซอยผลิตผล ลอดซุ้มซุนยัดเซ็นเข้ามาก็ได้เช่นกัน ก็จะเจอกับวัดสุดท้ายที่เราจะมากันในวันนี้ คือที่ "วัดโลกานุเคราะห์" หรือเรียกในภาษาจีนว่า "วัดตื้อเต้ตื่อ" วัดในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่สร้างขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 หรือเมื่อประมาณปี พ.ศ.2394 โดยพ่อค้าชาวจีนและชาวญวน ร่วมกันสร้างเป็นสำนักสงฆ์ เพื่อใช้เป็นศาสนสถานประกอบศาสนกิจตามลัทธิพิธีทางฝ่ายพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน

หากมาเยือนเยาวราชอย่าลืมมาแวะไหว้เทพเจ้ากันที่วัดโลกานุเคราะห์
สำหรับชื่อ "วัดโลกานุเคราะห์" ภาษาไทยนี้ก็ได้รับพระราชทานนามมาจากรัชกาลที่ 5 เช่นเดียวกับสองวัดข้างต้นเช่นกัน โดยวัดแห่งนี้ก็มีขนาดไม่ใหญ่โตนักแต่ก็มีความงดงามไม่แพ้วัดไหนๆ ตรงซุ้มพระประธานเน้นสีทองกับสีแดง ส่วนพระพุทธรูปในซุ้มนั้นก็มีทั้งพระพุทธรูปแบบไทยทั้งในอิริยาบถนั่งและยืน ประดิษฐานรวมอยู่กับพระพุทธรูปแบบจีนอีกด้วย ส่วนที่ผนังด้านหลังพระประธานนั้นก็วาดลวดลายเป็นรูปพระพุทธเจ้าตามแบบจีนสามองค์ด้วยกัน

นอกจากนั้นแล้ว ที่ฝาผนังทั้งด้านซ้ายและขวาภายในพระอุโบสถนี้ ก็ยังเป็นกระเบื้องที่มีลวดลายเป็นพระศรีศากยมุนีหรือพระพุทธเจ้าติดอยู่รายรอบเป็นหมื่นๆองค์ ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่าพระองค์ทรงมาเป็นสักขีพยานสดับรับฟังการสวดมนต์และคำอธิษฐานของเรานั่นเอง

และนี่ก็คือวัดส่วนหนึ่งในเยาวราช ที่ฉันนำมาแนะนำให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปกราบไหว้กันในช่วงตรุษจีนนี้

*****************************************

"วัดโลกานุเคราะห์" ตั้งอยู่บนถนนราชวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร.0-2226-2719

"วัดบำเพ็ญจีนพรต" ตั้งอยู่ในตรอกวัดกันมาตุยาราม ถนนเยาวราช สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร.0-2222-4789

"วัดมังกรกมลาวาส" วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร.0-2222-3975