วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551

งดกินอาหารทะเล จากบางแสน


> > แพลงก์ตอนกลุ่มคีโตเซอรอส เหตุน้ำทะเลบางแสนแดง
> >
> >
> > ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์
> > ไทย สวทช.
> > .......................................................................................................................................................................
> > นักวิชาการเผยปรากฏการน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงที่บางแสน
> > เกิดจากแพลงก์ตอนกลุ่มคีโตเซอรอ
> > ส (Chaetoceros spp.)
> > ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยมีรายงานการสร้างสารพิษมาก่อน พร้อมเตือน
> > ประชาชนกรณีปลา ปู กุ้ง หอย ตายจากปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี
> > อาจไม่สามารถนำมาบริโภคได้
> > ทุกครั้ง ระบุต้องรอผลการวิเคราะห์ให้แน่ชัดก่อน
> > เพราะแพลงก์ตอนบางชนิดสร้างสารพิษได้
> > .......................................................................................................................................................................
> > จากกรณีข่าวน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 12
> > ตุลาคม บริเวณชายหาดบาง
> > แสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตตายลงจำนวนมากนั้น
> > ผศ.ดร.สมถวิล จริต
> > ควร ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา อธิบายว่า
> > เป็นปรากฏการณ์น้ำทะเล
> > เปลี่ยนสี หรือปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (water discolouration หรือ red tide)
> > เป็นปรากฏการณ์
> > ธรรมชาติที่เกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว(บลูม หรือ
> > Bloom)ของแพลงก์ตอนพืช
> > เนื่องจากแพลงก์ตอนเหล่านี้ต่างก็มีสีในตัวเอง
> > เมื่อเกิดการเจริญเติบโตจำนวนมาก จึงทำให้สีของน้ำ
> > ทะเลเปลี่ยนไปตามสีของแพลงก์ตอนชนิดที่มีมากในขณะนั้น เช่น สีแดง
> > เกิดจากแพลงก์ตอนสกุลเซอราเ
> > ตียม (Ceratium sp.) สีส้มเกิดจากสกุลเพอริดิเนียม(Peridinium sp.) หรือ
> > สีเขียวเกิดจาก
> > สกุลนอคติลูกา ( Noctiluca sp.) เป็นต้น
> >
> >
> >
> > คีโตเซอรอส (Chaetoceros spp.)
> >
> >
> >
> > ' ทั้งนี้ผลการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลบางแสนมาวิเคราะห์พบว่า
> > ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
> > แดงครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการบลูมของแพลงก์ตอนกลุ่มคีโตเซอรอส (Chaetoceros
> > spp.) ซึ่งเป็น
> > สาหร่ายขนาดเล็กที่เซลล์มีรูปร่างเป็นทรงกระบอกต่อกันเป็นสายยาว
> > โดยแต่ละเซลล์จะมีรยางค์ยื่นออกท
> > างด้านข้างมุมละ 1 เส้น ( 1 เซลล์มีรยางค์ 4 เส้น) เคลื่อนที่ไม่ได้
> > อาศัยล่องลอยไปตามกระแสน้ำ
> > หากอยู่รวมกันจำนวนมากจะเห็นเป็นสีน้ำตาล หรือน้ำตาลแดง
> > และยังไม่เคยมีรายงานว่าสร้างสารพิษ
> > ส่วนสาเหตุการเกิดปรากฏการณน้ำทะเปลี่ยนสี
> > คาดว่าเกิดจากช่วงนี้มีฝนตกหนักบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการ
> > ชะล้างเอาแร่ธาตุจากหน้าดินไหลลงสู่ทะเลจำนวนมาก
> > กอปรกับน้ำทิ้งจากบ้านเรือนที่มีปริมาณธาตุอาหาร
> > เช่น ไนโตรเจนและฟอสเฟตมากอยู่แล้ว จึงยิ่งเหมือนเติมปุ๋ยลงน้ำทะเล
> > ขณะเดียวกันอุณหภูมิ ความเค็ม
> > ของน้ำทะเล
> > รวมถึงแสงแดดอยู่ในช่วงพอเหมาะจึงทำแพลงก์ตอนให้เกิดการสังเคราะห์แสงและเจริญเติ
> > บโตอย่างรวดเร็วปก่คลุมผิวหน้าน้ำ
> > ดังนั้นเมื่อมีปริมาณแพลงก์ตอนมากก็ยิ่งทำให้มีการใช้ออกซิเจนในกา
> > รหายใจมากตามไปด้วย ออกซิเจนที่อยู่ในน้ำจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
> > อีกทั้งเมื่อแพลงก์ตอนหนาแน่น
> > เซลล์บางส่วนก็จะตาย แบคทีเรียจะย่อยสลายโดยต้องใช้ออกซิเจนอีก
> > ส่งผลทำให้น้ำเริ่มเน่า สิ่งมีชีวิต
> > ทั้งในน้ำ สัตว์หน้าดิน
> > และสัตว์ที่ฝังตัวอยู่ตัวในดินเริ่มขาดอากาศหายใจและตายเป็นจำนวนมาก ดังจะ
> > เห็นว่ามีทั้งปลา ไส้เดือนดิน หอยทับทิม ปูเสฉวน หอยเสียบ ปูม้า ปลาลิ้นหมา
> > ขึ้นมาตายจำนวนมาก'
> > ผศ.ดร.สมถวิล กล่าวว่า ขณะที่เดินสำรวจพบชาวบ้านมาเก็บปู
> > ปลาเพื่อนำไปประกอบอาหารจำนวนมา
> > ก จึงอยากเตือนว่าไม่สามารถทำได้เช่นนี้ทุกครั้งไป
> > เพราะแม้ว่าการบลูมของแพลงก์ตอนกลุ่มคีโตเซอรอ
> > ส ครั้งนี้จะไม่มีพิษ แต่ในน้ำทะเลมีแพลงก์ตอนมากกว่า 5,000 ชนิด
> > ซึ่งชนิดที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำท
> > ะเลเปลี่ยนสีมีถึง 300 ชนิด และในจำนวนนั้นมีกว่า 40 ชนิดที่ผลิตสารพิษได้
> > โดยสารพิษนี้จะเข้าสู่ห่วง
> > โซ่อาหารของมนุษย์ได้จากการที่สัตว์น้ำกินแพลงก์ตอนพืชกลุ่มนี้เข้าไป
> > พิษจะถูกสะสมอยู่ในตัวของสัตว์ทะเ
> > ล เช่น หอย โดยที่ไม่เกิดอันตราย แต่จะไปมีผลต่อผู้บริโภคแทน
> > ทั้งนี้พิษบางชนิดรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิตได้
> > อาทิ พิษอัมพาตในหอย (paralytic shellfish poison, PSP)
> > เกิดจากการบริโภคหอยสองฝา
> > เช่น หอยแมลงภู่
> > และหอยนางรมที่กรองแพลงก์ตอนพืชบางชนิดของกลุ่มอเล็กซานเดรียม (
> > Alexandrium sp.) หรือกลุ่มไพโรดิเนียม (Pyrodinium sp.) เป็นต้น
> > แพลงก์ตอนเหล่านี้จะ
> > สร้างสารพิษต่อระบบประสาท ที่สำคัญสารพิษนี้ละลายได้ในน้ำ
> > และมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนที่ใช้ในการป
> > รุงอาหาร จึงไม่สามารถทำลายด้วยการหุงต้ม
> > โดยผู้ที่ได้รับสารพิษจะมีอาการชาบริเวณปาก ลิ้น และ
> > ปลายนิ้ว หายใจลำบาก กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต
> > และอาจเสียชีวิตเนื่องจากการล้มเหลวของระบบหายใจ
> > เป็นต้น
> > ทั้งนี้ในเมืองไทยได้มีรายงานการเกิดน้ำแดงที่เป็นพิษอัมพาต(PSP)
> > ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม
> > พ.ศ.2526 โดยเกิดที่ปากแม่น้ำปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ป่วย 63
> > ราย และเสียชีวิต 1 ราย
> > เนื่องจากกินหอยแมลงภู่ที่จับมาจากบริเวณที่เกิดน้ำแดง
> > ในปัจจุบันถึงแม้จะมีรายงานการเกิดน้ำแดงบ้างแ
> > ต่ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษเกิดขึ้นอีก แต่ก็ควรระมัดระวัง
> > ดังนั้นทุกครั้งที่เกิดกรณีเช่นนี้จึงต้องรอให้มีก
> > ารตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าสาเหตุที่ปลาตายจำนวนมากเป็นเกิดจากอะไร
> > เป็นกลุ่มแพลงก์ตอนที่มีพิษหรือ
> > ไม่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง
> > ////////////////////////////////////////////////

ติดตามข่าวสาร สาระบันเทิง กีฬา และอื่นๆ ที่ MSN Thailand Homepage MSN Thailand Homepage