วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตีแผ่อาชีพตัวแทน บริษัทประกันชีวิต

คนที่เคยขายประกันจะรู้ว่าอาชีพนี้กดดันมากๆ แต่แม้ว่าจะยากและลำบากแค่ไหน

บริษัทประกันก็จะมีวิธีกระตุ้นจิตใจให้ฮึกเหิมเพื่อ.....สุดท้ายคือยอดขาย


สิ่งที่จะผิดพลาดในวงการนี้คือ

1 เพื่อยอดขาย ยอมทำได้ทุกอย่าง

2 ถ้าขาดเงิน ก็เอาเงินลูกค้ามาใช้ โดยคิดว่าจะหมุนทัน แต่สุดท้ายไม่ทัน

3 ปัญหาเรื่องชู้สาว ไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานหรือกับลูกค้า

4 หัวหน้ามักจะไม่บอกว่าเมื่อไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องแลกกับอะไรบ้าง (เพราะอาชีพนี้ยาก บอกหมดใครที่ไหนจะมาทำ รู้ ก่อนก็ท้อแล้ว)


เมื่อมันเป็นงานที่ยาก ดังนั้น บริษัทประกันจึงต้องมีระบบที่จะฝึกและให้กำลังใจตัวแทน นั่นก็คือ การเข้าร่วมประชุมในที่ประชุม ตัวแทนจะได้รับฟัง

1
คนที่ประสบความสำเร็จ มาเล่าว่า เขาได้อะไรบ้างจากอาชีพนี้ แต่ยากนะ เพื่อให้รู้สึกว่า เราอยากเป็นอย่างเขาเราต้องทุ่มเท

2
ประสบการณ์การเจอลูกค้า ตัวแทนจะได้ศึกษาเคสการขาย บ่อยครั้งเคสการขายก็สร้างความประทับใจให้ตัวแทน ทำให้รู้สึกว่า อาชีพนี้ก็มีสิ่งที่สวยงามแฝงอยู่

3
คุณจะไม่เจอทัศนคติทางด้านลบในที่ประชุม เพราะงานนี้ยาก ใครพูดลบมากๆ จะได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าหน่วยว่า ไม่ต้องไปฟัง ให้คิดแต่แง่ที่ดี ที่ให้กำลังใจ แล้วเราจะประสบความสำเร็จ

4
ตัวแทนจะได้รับการกระตุ้นโดยการแข่งขัน เช่น ลงคนละ 1000 บาท อาทิตย์หน้ามาประชุมใครขายได้มากสุด เอาเงินรางวัลไป....ให้นึกภาพว่า ตัวแทนที่ขายไม่ค่อยได้ ค่าคอมก็ไม่ค่อยพอกับค่าใช้จ่ายแล้ว ยังต้องมาเสียเงินลงขันอีกจะเป็นอย่างไร แต่มันก็เป็นสิ่งกระตุ้นที่ดี


เมื่อเข้าใจลักษณะของงานและการฝึกอบรมแบบนี้แล้ว

คุณจะรู้... ถ้าเริ่มด้วยการคุยว่า... อาชีพนี้เธอทำแล้วมีแต่ไม่ดี ถามจริงๆเธอได้อะไรจากงานนี้บ้าง

สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ การทะเลาะกัน เพราะคำพูดของคุณเป็นคำพูดในแง่ลบที่ตัวแทนไม่ต้องการฟัง

และตัวแทนมักจะถูกจูงใจในคำพูดที่ว่า พิสูจน์ให้คนอื่นรู้ว่าเราทำได้ อย่าให้ใครมาดูถูกเรา

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เธอจะไม่ยอมเลิกงานนี้ ก็เพราะคำพูดเหล่านี้นี่เอง

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าแฟนของคุณเป็นคนที่ใช้ได้ในแง่ของความพยายามที่จะต่อสู้กับ

สิ่งที่ยากลำบากสิ่งที่เขาคิดนั้นไม่ผิด เขาคิดถูกที่ว่า อาชีพนี้รายได้ดี ทำถึงจุดหนึ่งจะสบาย

มีรายได้ตกทอดสู่ลูก แต่... มันยาก ต้องจูงใจตัวเองตลอดเวลา

เขาคงจะพยายามทำเพื่ออนาคตของลูกจริงอย่างที่เขาพูด...

อย่าสงสัยเลยครับในแง่ของเรื่องชู้สาวผมคิดว่าไม่มี เพราะถ้ามีหลายๆอย่างน่าจะแย่กว่านี้


ดังนั้นถ้าต้องการชีวิตครอบครัวกลับคืนมา ก็ต้องเปิดใจคุยกันแบบละมุนละม่อม

ใช้หลักการของบริษัทประกันมาเป็นตัวช่วย


1 รอเวลาที่พร้อมจะคุย

2 ถามแบบจริงใจอย่างอยากรู้และเปิดใจจริงๆว่าทำไมถึงอยากทำอาชีพนี้ เหตุผลก็ไม่พ้นที่ผมบอก

3 ให้เค้าประเมินว่าสิ่งที่เค้าได้รับ ต้องแลกกับอะไรบ้าง ถ้ามันทำได้จริงคุณพร้อมที่ จะสนับสนุนและอดทนเพื่อเค้า

4 และขอให้เค้ารับฟังคุณว่า อาชีพขายทองที่เป็นอยู่จะได้อะไรบ้าง มันน่าจะน้อยกว่าขายประกัน แต่ก็ได้รับบางสิ่งกลับมาชดเชย ขอให้คุณพูดถึงผลตอบแทนเป็นตัวเลขให้เธอเห็น ชี้ให้เห็นว่าอย่างน้อยก็สบายกว่าก่อนหน้านี้

5 บอกเธอว่าสิ่งที่เธอทำก็มีข้อดี แต่สิ่งที่คุณทำก็ไม่ใช่จะแย่ คุณอยากจะได้ชีวิตครอบครัวกลับมา มีรายได้พอประมาณ มีเวลาด้วยกัน เธออยากเที่ยวก็จะหาเวลาปิดร้าน แต่ก็สนับสนุนให้เธอลองทำตามฝันของเธอ (อย่า พยายามบอกว่าขายทองดีกว่าขายประกัน เพราะนั่นคือทัศนคติแง่ลบ และเป็นทางเลือกที่ตัวแทนไม่อยากได้ยิน คนที่จะสำเร็จได้ ควรจะเผาสะพานทิ้งหรือทุบหม้อข้าวเพื่อชิงเมือง ไม่ใช่โลเลหาทางหนีทีไล่)

6 ท้าทายเธอตามแบบที่ที่ประชุมของเธอชอบทำ ให้เธอกำหนดเป้าหมายว่า ถ้าเธอจะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ อีก 3 เดือนผลงานของเธอควรจะได้แค่ไหน คุณจะสนับสนุนและอดทนเพื่อเธอ จะเลี้ยงลูกดูแลบ้านให้ทุกอย่างให้เธอทุ่มเต็มที่ ยกเว้นการเข้าไปช่วยเหลือด้านเงินทอง และการหาลูกค้าให้(ตรงนี้น่าจะง่ายเพราะแฟนคุณก็บอกเองว่าให้คุณทำตรงนี้ไม่ ควรเข้ามาในอาชีพตัวแทน)

7
ถ้าเธอทำแล้ว ทำไม่ได้ ขอให้เธออย่าฝืน เพราะการจ่ายเวลาให้กับความฝันที่ตั้งใจเต็มที่แล้ว ยังไม่สำเร็จ สุดท้ายเธอจะสูญเสียทั้งหมด ทั้งเงิน อิสรภาพทางการเงินและครอบครัว


คุณเองยังฝันที่จะทำทุกอย่างเพื่อความสบายของลูกเมีย ถ้าเธอจะฝันบ้างก็ไม่ผิด

แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเลือกในสิ่งที่เหมาะสมที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด


มีอีกข้อที่สำคัญ สำหรับคนที่เป็นตัวแทนประกันชีวิต นั่นคือ

การเลิก ทำอาชีพนี้นอกจากต้องต่อสู้กับความรู้สึกพ่ายแพ้ ไม่เอาไหนแล้ว ที่สำคัญคือความ

รู้สึกผิดต่อลูกค้าเหมือนกับว่าเราทรยศและทอดทิ้งเค้านี่ก็เป็นเหตุผลอีกข้อที่จะถูกยกขึ้นมา

ปลุกปลอบกำลังใจให้ตัวแทนฮึดสู้และหากวันนั้นของตัวแทนมีจริง อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก

คุณควรจะเข้าใจในข้อนี้ และให้กำลังใจเธอที่จะเลือกทางใหม่

การโทรศัพท์ไปคุยและยอมรับกับลูกค้า ขอโทษที่ทำในสิ่งที่ตั้งใจไม่ได้ อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราไม่ได้ทิ้งเค้า เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำปรึกษาตลอดเวลา

ที่ต้องการ เพราะคนเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ตอนที่เราอยู่จุดนั้น

เราตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว



Credit : Gummy ranthong.com