ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที.. .เทศกาลแห่งความรักกำลังมา ดอกกุหลาบกำลังจะบาน หลายๆคนเตรียมตัวซื้อของขวัญให้แฟน หรือคนรักกันแล้ว(รวมทั้งผมด้วย อิอิอิ) บางคนวางแผนกันไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่
... .สุดท้าย บางคู่อาจลงท้ายด้วยการยอมมีอะไรกัน.. .(กรณีที่ผมจะพูดต่อไปคือการสมยอมอย่างเดียว
ไม่รวมถึงการถูกข่มขืนหรือขืนใจนะครับ หากคุณเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกขืนใจ
– ปิดเถอะครับ คุณจะหมดกำลังใจป่าวๆ เพราะยังมีผู้ชายดีๆ พร้อมจะอ้าแขนรับคุณเสมอ. ..ก็มันไม่ใช่ความผิดคุณนี่นา)
ทุกวันนี้วัฒนธรรมและอารยธรรมตะวันตก ไหลบ่าเข้าประเทศเร็วกว่าสายน้ำเสียอีก. ...
หลายคนพูดไทยคำอังกฤษคำ ลืมภาษาดั้งเดิม. ..หลายคนติดฟาสต์ฟูดแทนข้าวแกง
บางคนลืมข้าวเหนียวข้าวจ้าว หันไปทานแฮมเบอร์เกอร์กับขนมปังแทน แน่นอน
สิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ไม่เกิดความเสียหายทางสังคมเท่าใดนัก
และไม่มีวัฒนธรรมใดจะก่อให้เกิดความเสียหายทางสังคม ได้มากมายเท่ากับวัฒนธรรมฟรีเซ็กซ์ (Free Sex)
ในหมู่วัยรุ่นที่ฆ่าคนทั้งเป็นมานับพันนับหมื่นแล้ว....
.ยิ่งวันวาเลนไทน์ด้วยแล้ว กระแสของการมอบกายให้ชายคนรักของวัยรุ่นยิ่งเป็นที่นิยม
แต่คุณจะรู้หรือเปล่าว่า Sex ของผู้ชายก็แค่กิจกรรมสำเร็จความใคร่ ไม่ใช่การมอบใจให้คุณ
– แม้แต่ผมก็มีครับ ยอมรับแบบลูกผู้ชาย - ทั้งนี้อาจแสดงออกหรือไม่ อีกเรื่องครับ)...
ไม่ว่าจะอยู่อันดับหนึ่ง สอง สาม หรือหลังๆ มันก็ยังอยู่ในสมองผู้ชายอยู่ดี
(ทั้งนี้ต้องเป็นชายทั้งแท่งนะครับ ไม่ใช่ชายเฉพาะแท่ง) สุดยอดคำถามยอดฮิตของผู้หญิง
(ที่ชอบถามผู้ชายหรือถามตามเวบบอร์ดในเวบไซต์ต่างๆ) "ถ้ามอบร่างกายให้ผู้ชายแล้ว
ผู้ชายจะรักเธอมากขึ้นหรือเปล่า?" ฮั่นแน่!!เริ่มสนใจบ้างแล้วล่ะสิ 
Sex ถือเป็นกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันอย่างหนึ่ง ไม่ต่างจากทานข้าว ดูหนัง หรือฟังเพลง
....การที่เขาและคุณมี Sex ด้วยกันไม่ได้แปลว่าฝ่ายชายจะรักคุณมากขึ้น เพราะถ้าเขารักคุณ เขาก็รักคุณอยู่แล้ว
การมี Sex ก็เหมือนกับการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างนึง
ผลคะแนนของมันไม่ต่างกับการดูหนังด้วยกัน การฟังเพลงด้วยกัน เพราะนั่นก็แค่การได้ใกล้ชิดคุณเหมือนกัน
.....แต่ สำหรับฝ่ายชาย(ที่หลอกฟันคุณ) นั่นคือการบรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว....
เหอะๆๆ คุณคิดว่าแค่นั้นจริงเหรอ?? แน่นอน หากคุณเป็นวัยรุ่นวัยเรียน
อาจจะยังไม่คิดอะไรมากสักเท่าไหร่นัก..... แต่คุณลองนึกตามผมนะ
(ตอนนี้สมมติว่าคุณผู้อ่านทุกคนเป็นผู้ชายนะครับ ลองหลับตาแล้วนึกภาพตามดู)
หากคุณมีแฟน....แฟนคุณเคยสมยอมมีอะไรกับชายอื่นมาแล้ว คุณจะรับได้(หมายถึง แต่งงานด้วย)
หรือไม่ (ร้อยละ 50 รับไม่ได้ ร้อยละ 50 รับได้ – จริงๆมันจะมีพวกที่ปากบอกว่ารับได้ แต่ใจรับไม่ได้อีกนะครับ)
อ่ะ....คราวนี้ คุณลองนึกภาพต่อดูนะครับ (จำไว้นะครับ เหลือแค่ร้อยละ 50 แล้ว)
หากบิดามารดาบุพการีคุณรู้ว่าว่าที่ลูกสะใภ้ เคยสมยอมมีอะไรกับชายอื่นมาแล้ว
คุณ(ผู้ชาย)จะยอมทำให้ท่านเสียใจหรือเปล่า (ร้อยละ 50 ไม่ยอมแน่นอน
ร้อยละ 50 หยวนๆ เจรจาก่อน ทั้งนี้อาจได้หรือไม่ได้)....ต่อไป
(คราวนี้เหลือแค่ร้อยละ 50 ของร้อยละ 50 ลองคำนวณดูนะครับ)
หากบิดามารดาบุพการีคุณมีเพื่อนฝูงหรือสังคม แล้วเพื่อนเค้ารู้ว่าลูกชายบ้านนี้
คว้าผู้หญิงที่เคยสมยอมมีอะไรกับผู้ชายอื่นมาแล้ว
บิดามารดาบุพการีคุณจะยอมบากหน้าให้คุณ เข้ามาในบ้านหรือเปล่า (ร้อยละ 50 ไม่ยอม ร้อยละ 50 ยอม)
....(เป็นยังไงครับ คำนวณได้เท่าไหร่....คำตอบของสมการคือ ร้อยละ 0.125
หรือภาษาชาวบ้านพูดว่า 1 คนจาก 800 คน – ผมอยากบอกว่ามันเป็นตัวเลขที่ผมมั่วขึ้นมา
สังเกตสิ 50-50 ทั้งนั้น ซึ่งจริงๆผมเคยคำนวณจากผลการสำรวจส่วนตัว
คำตอบคือร้อยละ 0.001 หรือ 1 ใน 100,000 คนครับ) นึกดูสิ แทนที่คุณจะมีโอกาสเลือกทั้งหมด 800 คน
... กลับกลายเป็นว่าหายไปเกือบหมดเหลือแค่ 1 เดียว(ซึ่งคุณก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกคุณหรือเปล่า)
แทนที่โอกาสเลือกจะเป็นของคุณ กลับกลายเป็นว่าโอกาสเลือกเป็นของฝ่ายชาย...
Happy Valentine's Day
..อันนี้ผมแค่เบาะๆให้คุณดู เพราะยังไม่รวมถึงการไม่ยอมรับจากพี่น้องร่วมสายเลือดหรือนามสกุล
ชื่อเสียงวงศ์สกุลที่ฝ่ายชายกลัวจะสูญเสียอีก การถูกครหาจากสังคมฝ่ายชายเอง
แล้วไหนจะความรู้สึกของลูกของเขาที่จะตามมาอีก ยิ่งคิดยิ่งไม่มีโอกาส
- ยิ่งเขาเป็นถึงพวกลูกชายผู้บริหารดังๆ ลูกคุณหนูรวยๆ ที่เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆทั้งหลาย
(พวก หล่อ รวย เท่ห์ Perfect อะไรงี้)....
โอกาสคุณอาจเป็นติดลบเลยก็ได้ เพราะพวกเขาก็ต้องห่วงชื่อเสียงวงศ์สกุล
และศักดิ์ศรีที่บรรพบุรุษสะสมมายิ่งกว่าอะไรดี มันเป็นการปิดกั้นตัวคุณโดยตัวคุณเองนะครับ (ผมไม่ได้โกหกนะ)
หรือหากคุณจะบอกว่า "ไม่เป็นไร โกหกว่าไม่เคยก็ได้"
...เหอะๆ ผมจะบอกอะไรให้ ผู้ชาย(หลายคน)สืบประวัติคุณก่อนจีบหรือขอเป็นแฟนนะครับ
และเขาไม่ได้สืบจากปากคุณด้วย อันนี้ผมไม่ได้พูดเล่น บางคนสืบแม้กระทั่งคุณมีแฟนมาแล้วกี่คน
ความสัมพันธ์กับแฟนเก่าของคุณอยู่ขั้นไหน พื้นเพทางบ้านคุณเอง เพื่อนสนิทมิตรสหายคุณ
ความสัมพันธ์ในโรงเรียนเก่าหรือที่ทำงานเก่า เพราะถ้าคุณทำตัวดี ไม่เสียหาย เขาก็ยอมรับได้
ไม่เสียหายที่เขาจะสืบจริงมั้ยครับ แต่หากคุณมีประวัติด่างมาล่ะก้อ....คิดเองก็แล้วกัน
ไหนจะความรู้สึกของบุพการีคุณเองอีก....คุณลองนึกดูสิ หากคุณมีลูกสาวแล้วคุณรู้ว่าลูกสาวคุณ
ไปมีอะไรกับผู้ชายทั้งๆที่ยังไม่ถึงวัยอันควร คุณจะรู้สึกยังไง คุณจะรู้สึกยินดีเหรอ??
แล้วไหนบ้านอื่นจะรู้อีก...... ชื่อเสียงที่บิดามารดาบุพการี คุณสร้างสมมา(หรืออาจเป็นชั่วโคตร)
เป็นอันยับเยินด้วยฝีมือลูกสาวสุดที่รัก ผลกระทบมันเยอะกว่าที่คุณคิดนะครับ
แต่หากคุณยังยืนยันจะเถียงว่า "ทำไมล่ะ เรารักกันนะ...ทำไมจะมีอะไรกันไม่ได้"
เอายังงี้นะครับ ผมพูดในฐานะผู้ชาย (พูดแบบเปิดอกเลยก็ได้อ่ะ) หากคุณยอมมีอะไรกับผมแล้ว
ผมอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ (หมายถึง ทิ้งหรือไม่สนใจ
– เพราะหากผมมาเพื่อหลอกฟันคุณ นั่นคือผมบรรลุจุดมุ่งหมายผมแล้ว)
หรือไม่เปลี่ยน (เพราะยังไงผมก็รักคุณ – รักก็คือรัก...)
แล้วคุณจะยอมเสียสิ่งที่บิดามารดาบุพการีคุณหวงแหน แทนคุณมาให้ผมก่อนเวลาอันควรทำไมล่ะ?? จริงมั้ย
ว่าที่สะใภ้ของตระกูล ว่าที่ศรีภรรยาและว่าที่แม่ของลูก เขาต้องปกป้อง
ดูแลและให้เกียรติอย่างดี (พูดง่ายๆคือสุดชีวิตเขานั่นแหละ)
เพราะเธอจะเป็นสตรีต้นแบบที่ดีของลูก(ทั้งชายและหญิง) คือหน้าตาวงศ์สกุลเขา
คือแม่ศรีเรือนที่ไม่มีมลทินใดๆติดตัว..
คุณก็คิดเอาก็แล้วกันว่าคุณจะทำตัวให้ดูดีมีค่าคู่ควรที่จะเป็นลูกสะใภ้ตระกูลเขา หรือไร้ค่าเหมือนนางบำเรอคนนึง
ผมคงห้ามอะไรไม่ได้แล้วล่ะนะ ประเทศไทย ประเทศประชาธิปไตย
เราอยู่ใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน คุณมีสิทธิ์เท่าผม ผมมีสิทธิ์เท่าคุณ คุณเลือกได้ ผมก็เลือกได้.
. ...แต่หากคุณเลือกที่จะไปมีอะไรกับเขาแล้วเขาทิ้งคุณไป คุณซมซานมาหาผม(หรือใครก็ตาม)
ขอให้ดูแลคุณ เทคแคร์คุณ เอาใจใส่คุณ แน่นอน ถ้าแค่นั้นผม(หรือใครก็ตาม)
ก็ทำให้ได้ แต่ถ้าจะให้รับคุณเป็นสะใภ้....คุณก็อย่าหวังไว้มากว่าผม (หรือใครก็ตาม)
จะเลือกที่จะยอมให้คุณเป็นสะใภ้ก็แล้วกัน.... . โอกาสของมันผมก็คำนวณให้คุณดูเรียบร้อยแล้ว
(และคุณไม่มีสิทธิด่าผมด้วย เพราะคนที่หลอกฟันคุณคือ "เขา" ไม่ใช่ผม)
"เพราะคุณไม่เหลือสิ่งดีๆ ให้กับผู้ชายดีๆที่รักคุณ กลับยอมมอบสิ่งดีๆให้ผู้ชายเลวๆคนนึง"
.....คิดดูเองก็แล้วกันว่ามันยุติธรรมกับเขาคนนั้นของคุณหรือเปล่า???
ตอนนี้คุณยังไม่ได้เสียอะไรไป คุณยังถือไพ่เหนือกว่าผมนะครับ.....แล้วคุณจะยอมวางไพ่ตายทำไมล่ะ???จริงมั้ย
"รักคือการปกป้องและดูแล ไม่ใช่ตอแยขอมีเซ็กซ์หรอกนะ"
"เก็บสิ่งดีที่มีค่าให้ผู้ชายที่คู่ควร ในเวลาที่เหมาะสมเถอะครับ... .ถือซะว่าผมขอร้องแทนเขาคนนั้นของคุณล่ะกัน"
เพราะอย่างน้อยผู้ชายเลวๆคนนี้ ก็ทำหน้าที่เตือนสติและบอกความรู้สึกทุกอย่าง ของตัวเอง
และผู้ชายให้คุณฟังจนหมดแล้ว
– แล้วที่ผมเขียนร่ายมาหลายๆหน้า ให้คุณอ่านจนเหนื่อย ก็แค่อยากเตือนสติและพยายามดึงสติคุณกลับมา....
ที่ผมเขียนให้อ่านเนี่ย ผมก็คงโดนผู้ชายหลายคนด่าเรียบร้อยแล้วล่ะ
แต่ถ้าแลกกับการช่วยคุณๆหลายๆคนไว้ เอาว่ะ...งานนี้ยังไงก็คุ้ม
 |
