วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ 'โน้ส' อุดม แต้พานิช


สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ 'โน้ส' อุดม แต้พานิช


ในโลกใบนี้มีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากมาย แต่บางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราไป วันนี้

"นมอุโด้ส" จะมาบอกถึง สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ รับรอง สุหนัดแน่ๆ!!


1. มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี


2. เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ

3.
ถ้าแอบรักใคร อย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า


4.
เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักที ให้พูดว่าไม่เอา จะได้เร็ว



5.
ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที


6. ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้าน ไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย



7.
ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ

8.
ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ

9.
ระวังคนที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ


10. อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง


11. หนังสือดี คือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือ หนังที่เราชอบดู


12. อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ


13. อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก


14. เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ


15. อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ


16. รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป


17. ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี


18. ตลาด อ.ต.ก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา


19. เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน


20. ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป

21.
คนไม่กินเนื้อ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป

22.
เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีนออกจากปาก ให้หลับตาด้วย

23.
ปูอัด มันทำจากปลา

24.
กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า

25.
อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ

26.
ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ 2 ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่าปกติดีนี่ไปทำอะไรมา

27.
คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเค้าไม่มีตู้ เค้าไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร

28.
คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆ ตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา

29.
คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ

30. ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน

31.
จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา

32.
เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดู หน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ

33.
ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก

34.
ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชาย ผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน

35.
เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ

36.
ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก

37.
ถ้ามีการแนะนำตัวว่า 'นี่เพื่อนฉัน' หมายความว่า 'แฟนฉัน'

38. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า 'นี่แฟนฉัน' หมายความว่า 'ผัว/เมียฉัน


เป็นอย่างไรบ้าง อ่านจบแล้วรู้สึกว่าอยากพูด "อ๋อ ใช่ซี่......" เอาล่ะ รีบไปฮากันจนขาถ่าง (ถ่างขาๆ) กันเลยอ่านแล้วอย่า 'สะหวีหวี้วี' คนเดียว

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ช้างล้ม พลายวิลาส ตกหน้าผา หัวกระแทกหินตาย ที่เขาบรรทัด

เกิดเหตุสลดอีก ช้างล้มที่ จ.พัทลุง เป็นลมตกหน้าผาลงมาด้านล่าง หัวกระแทกก้อนหิน เสียชีวิตคาที่ เจ้าของเผยให้ไปรับจ้างลากไม้ยางพารา ในป่าเทือกเขาบรรทัด แล้วนำมาผูกไว้ กลับมาพบเป็นศพ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 1 มิ.ย.2552 ได้รับแจ้งจากนายถวิล อักษรเนียม อายุ 63 ปี
เจ้าของช้างที่ชื่อ พลายวิลาส ว่าได้นำช้างไปผูกให้กินอาหารอยู่กลางป่าเหนือหมู่บ้าน เมื่อเดินทางไปที่ช้างเพื่อที่จะนำกลับมาใช้งาน ก็พบว่าช้างพลายวิลาสได้ล้มตกอยู่ที่หน้าผาลึกเกือบ 10 เมตร ใกล้ก้อนหินใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานว่า ช้างอาจจะเป็นลมและล้มลงไปที่ที่ลุ่ม ส่วนหัวของช้างไปกระแทกกับก้อนหินจนตายดังกล่าว และชาวบ้านในพื้นที่เมื่อทราบข่าวว่า ช้างตกเหวตายต่างเดินเท้าเข้าไปกลางป่านานร่วมชั่วโมง เพื่อดูด้วยความสงสาร



นายถวิล กล่าวด้วยใบหน้าที่สลดว่า ช้างพลายวิลาส เป็น ช้างที่แสนรู้ ซึ่งตนซื้อมาจาก จ.ชุมพร มาหลายปีแล้ว ในราคา 250,000 บาท โดยนำมาไว้ใช้งานรับจ้างชักลากไม้ยางพารา ออกจากป่าเทือกเขาบรรทัดในพื้นที่ อ.กงหรา และเป็นช้างพลายตัวขนาดใหญ่ มีอายุประมาณ 50 ปี มีน้ำหนักประมาณ 3 ตัน สำหรับก่อนเกิดเหตุนั้น ตอนเย็นวันที่ 31 พ.ค. 2552 หลังจากที่ตนได้นำพลายวิลาศออกไปรับช้างลากไม้ยางพารา ในป่าเทือกเขาบรรทัดเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ตนก็ได้นำพลายวิลาศไปผูกเลี้ยงไว้ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็เดินเท้ากลับบ้าน ตอนเช้าวันนี้ ได้เดินทางไปยังจุดที่ผูกช้างเอาไว้ เพื่อนำช้างไปรับช้างลากไม้ยางเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมาออก็พบว่าช้างพลายวิลาศ ตกลงมาข้างล่าง และหัวของช้างไปกระทบกับก้อนหินจนเสียชีวิต

หลังจากที่ตนพบช้างเสียชีวิต ก็ได้ลงไปบอกกล่าวให้เพื่อนบ้านรับทราบ และว่าจ้างรถแบ็กโฮลากช้างพลายวิลาศออกจากป่า เพื่อนำไปฝังและประกอบพิธีทางศาสนาในที่ดินของตนใกล้บ้านพัก



ทางด้านนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งให้นายอำเภอกงหราและกำนันตำบลคลองทรายขาว เข้าไปสอบสวนหาความเป็นจริงให้ได้ว่า เจ้าของช้างได้ใช้แรงงานช้างมากไป เนื่องจากในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ช้างเลี้ยงที่จังหวัดพัทลุง ได้ล้มตายไปแล้วถึง 2 เชือก และ ได้สั่งให้ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุงสอบสวนสาเหตุการตายของ ช้างพลายวิลาศ แล้ว หากพบว่าการตายของช้างพลายวิลาศ ไปเกี่ยวข้องกับกับการตัดไม้ทำลายป่า ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าของช้างต่อไป

มารู้จัก สเต็มเซลล์ (Stem cells) หรือ เซลล์ต้นกำเนิด กันเถอะ

เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) จัดเป็น เซลล์วัยอ่อนที่สามารถแบ่งตัว และสร้างเองใหม่ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถเจริญเติบโตสร้างเซลล์ลูกหลานได้จำนวนมาก และหลายประเภท ตลอดชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

เซลล์ต้นกำเนิดสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทจำแนกตามอายุดังนี้
1. Embryonic Stem Cells เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากตัวอ่อนระยะแรก หลังการปฏิสนธิจนถึง 14 วัน

2. Fetal Germ Stem Cells เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากเซลล์สืบพันธุ์ของทารกในครรภ์ระยะแรกก่อนที่ จะกลายไปเป็นไข่ หรืออสุจิ เซลล์กลุ่มนี้ได้มาจากเซลล์ของตัวอ่อนที่เกิดการแท้งระหว่างการตั้งครรภ์ ระยะแรก

3. Umbilical Cord Blood Stem Cells เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือด สายสะดือของทารกหลังคลอด ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิดของเม็ดเลือดที่สามารถเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในการรักษา พยาบาลได้

4. Adult Stem Cells เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกาย (Somatic Stem Cells) สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อหลายชนิด ทั้งเนื้อเยื่อที่มีการสร้างเซลล์ทดแทนอย่างรวดเร็วตลอดเวลา เช่น ไขกระดูก ผิวหนัง และเยื่อบุทางเดินอาหาร ตลอดจนอวัยวะที่แต่เดิมเชื่อว่าไม่มีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ เช่น สมอง และหัวใจ

เซลล์ ต้นกำเนิดที่มีการศึกษากันอย่างกว้างขวาง คือ Embryonic Stem Cells และ Adult Stem Cells ซึ่งทั้งสองชนิดแตกต่างกันที่ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิด ต่าง ๆ Embryonic Stem Cells สามารถเปลี่ยน แปลงไปเป็นเซลล์ได้แทบทุกชนิดในร่างกาย เนื่องจากเป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนโดยตรง ในขณะที่ Adult Stem Cells มีความสามารถในการแบ่งตัวได้น้อยกว่า แต่ก็นับว่าเพียงพอในการนำไปใช้ประโยชน์ และที่สำคัญคือสามารถนำเซลล์ของผู้ป่วยมาเพาะเลี้ยง และนำกลับไปรักษาตัวผู้ป่วยเองได้ จึงมีความปลอดภัยสูง และไม่มีปัญหาทางด้านชีวจริยธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง

การรักษาโดยใช้ เซลล์อาศัยคุณสมบัติสำคัญในการที่เซลล์ต้นกำเนิดจากอวัยวะหนึ่ง สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่อของ อวัยวะอื่นที่ไม่ใช่เซลล์ของอวัยวะดั้งเดิม เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมและสิ่งกระตุ้นที่เหมาะสม เช่น เซลล์จากไขกระดูกเจริญไปเป็นเซลล์ตับ, กล้ามเนื้อหัวใจ และเซลล์ประสาท ดังนั้นแพทย์ และทีมงานจึงสามารถเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากแหล่งที่เก็บได้ง่าย เช่น จากไขกระดูก และกระแสโลหิต นำมาจัดเตรียม และตรวจสอบในห้องทดลอง ก่อนที่จะนำไปทดแทนเซลล์ที่ผิดปกติหรือเสื่อมสภาพตามกระบวนการรักษาผู้ป่วย ที่เหมาะสมต่อไป

นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการรักษาโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็ง รังไข่, มะเร็งตับอ่อน และ Multiple Myeloma โรคโลหิตจางชนิดต่าง ๆ เช่น Thalassemia และ Sickle Cell Anemia โรคหัวใจ โรคที่มีการทำลายผิวกระจกตา เช่น Steven-Johnson Syndrome และการได้รับอันตรายจากสารเคมี โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคพาร์กินสัน โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ โรคเบาหวาน

จากการศึกษาในระยะเวลาหลายปี ที่ผ่านมาทำให้นักวิจัยทราบว่า เซลล์ต้นกำเนิดจากหลายแห่ง เช่น กระแสโลหิต, ไขกระดูก, กล้ามเนื้อ, เนื้อเยื่อไขมัน และเซลล์จากตัวอ่อนของมนุษย์สามารถนำมาใช้เป็นแหล่งของเซลล์ต้นกำเนิดในการ รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้ เซลล์ต้นกำเนิดจากไขกระดูกสามารถนำมาแยกและฉีดเข้าสู่หัวใจของผู้ป่วยได้โดยตรง ในขณะที่เซลล์ต้นกำเนิดที่มีปริมาณน้อย ๆ เช่น จากกระแสโลหิตจะต้องนำมาแยกและเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสมในห้องทดลองระยะ หนึ่งก่อน จึงจะนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ วิธีนี้มีรายงานว่า สามารถใช้ในการรักษาผู้ป่วย Acute Myocardial Infarction และ Chronic Coronary Heart Disease ได้


ในประเทศไทยได้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2529 โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากญาติพี่น้องนำมาปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งปัจจุบันทำได้ในโรงพยาบาลมหา วิทยาลัยหลายแห่ง

ภายใต้การกำกับ ดูแลของแพทยสภา ตามข้อบังคับแพทยสภาที่ประกาศในราชกิจจา นุเบกษา ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2545 กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ไว้ดังนี้

1. เป็นศูนย์กลางรับลงทะเบียนผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทั่วประเทศ

2. เป็นศูนย์กลางการคัดเลือกผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตให้กับผู้ป่วย ที่รอรับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตตามโรงพยาบาลทั่วประเทศด้วยความ เสมอภาค และถูกต้องตามหลักวิชาการ

3. เป็นศูนย์รับตรวจหาชนิดของเนื้อเยื่อเม็ดโลหิตขาว (HLA typing) ในผู้บริจาคและผู้ป่วยทั่วประเทศ

4. เป็นศูนย์ประสานงานระหว่างผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต หรือโรงพยาบาลที่รับเจาะเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต

5. เป็นศูนย์ข้อมูลบริการข่าวสาร และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต แก่วงการแพทย์และสาธารณชนโดยทั่วไป

6. เป็นตัวแทนในการติดต่อประสานงานกับศูนย์รับบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ธนาคารเลือดจากรกในต่างประเทศ หากมีความจำเป็นต้องใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาคของต่างประเทศ

ที่มา : Bloggang.com : keyzer : สเต็มเซลล์ (Stem cells) เซลล์ต้นกำเนิด

รักษา ช้างพังกำไล ด้วยการใช้ สเต็มเซลล์ (Stem cells) หรือ เซลล์ต้นกำเนิด

เวลา 16.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2552

คณะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาสัตว์ใหญ่จากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มายังสถาบันวิจัยช้าง จ.สุรินทร์ มาร่วมสมทบในการรักษาอาการบาดเจ็บของพังกำไล

ได้นำเสต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากไขกระดูกของพังกำไล ที่ผ่านขั้นตอนการคัดแยกมาทำการฉีดกลับเข้าเส้นเลือดของพังกำไล ที่สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ หรือ โรงพยาบาลช้างจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งหากสำเร็จ จะเป็นสัตว์ใหญ่ตัวแรกที่มีการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ




สำหรับพังกำไล วันนี้ กินอาหารได้น้อยลง ทำให้ร่างกายเริ่มซูบผอม แต่ยังมีอารมณ์ดี ตวัดงวงอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เตียงระบบไฮดรอริกค์ที่ได้รับการสนับสนุนจากชมนมนักอุตสาหกรรม ก็ได้ส่งมาถึงโรงพยาบาลช้างจังหวัดสุรินทร์แล้วทั้งนี้เพื่อนำไปช่วยในการ พยุงพังกำไล ให้สามารถทรงตัวได้บ้างป้องกันน้ำหนักตัวกดทับอวัยวะภายใน

ทั้งนี้ทีมสัตวแพทย์พระราชทาน ยังคงใช้ความพยายามอยู่หลายครั้งในการเอ็กซเรย์ขาข้างซ้ายของพังกำไล เพื่อหาตำแหน่งกระดูกที่หัก แต่ก็ยังไม่ประผลสำเร็จ เนื่องจากอาการอักเสบ และเนื้อบริเวณขามีความหนา เพราะอาการบวม ทำให้ขณะนี้คณะสัตวแพทย์ ทำได้เพียงแค่รักษาไปตามอาการ ที่พบเห็นจากภายนอกเท่านั้น

ทางคณะสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้นำไขกระดูกของพังกำไล มาทำเสต็มเซลล์ เสร็จแล้ว และส่งไปยังทีมสัตวแพทย์เพื่อนำไปฉีดให้พังกำไล ซึ่งทีมสัตวแพทย์เชื่อว่าเป็นความหวังหนึ่งที่จะช่วยรักษาพังกำไล ให้มีอาการที่ดีขึ้นได้ เพราะสเต็มเซลล์ เป็นเซลล์ต้นกำเนิดของทุกอย่างในร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะรักษาพังกำไลได้สำเร็จหรือไม่ เพราะการใช้เสต็มเซลล์ รักษาโรคกระดูกหักคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฮือฮา คลิปหลุด ดาราฟิลิปปินส์ คาทริน่า ฮาลิลิ สัมพันธ์ลับแฟนหนุ่มหมอผ่าตัด

ฟิลิปปินส์ทั่วประเทศฮือฮา คลิปวีดีโอดาราดาวรุ่งสาวเซ็กซี่มีสัมพันธ์ลับกับแฟนหนุ่มหมอผ่าตัดรูปหล่อ ขณะที่ฝ่ายหญิงยื่นฟ้อง ระบุคลิปลับฉุดงานหดในพริบตา พร้อมวอนให้ประชาชนเลิกดู เข้าใจหัวอกลูกผู้หญิง

คาทริน่า ฮาลิลิ

คาทริน่า ฮาลิลิ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ว่า ชาวฟิลิปปินส์ทั่วประเทศกำลังฮือฮากับคลิปวีดีโอฉาวน.ส.คาทริน่า ฮาลิลิ ดาราดาวรุ่ง และนางแบบสินค้า วัย 23 ปี มีความสัมพันธ์ลับกับดร.เฮยเด้น เกา แพทย์ผ่าตัดรูปหล่อ แฟนหนุ่ม ซึ่งกำลังแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต

คาทริน่า ฮาลิลิ เมื่อครั้งเป็นพรีเซนเตอร์

คาทริน่า ฮาลิลิ เมื่อครั้งเป็นพรีเซนเตอร์

โดยแพร่ระบาดไปทั่วอินเตอร์เน็ทและตามท้องถนนของกรุงมะนิลา ซึ่งมีการขายภาพวีดีโอดังกล่าวกันเกลื่อน ขณะเดียวกัน สัมพันธ์ดังกล่าวยังสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้น โดยมีการปลดป้ายโฆษณาสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งชุดชั้นในของฮาลิลิ

คาทริน่า ฮาลิลิ

คาทริน่า ฮาลิลิ

ด้านฮาลิลี ซึ่งได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อผู้เผยแพร่วีดีโอสัมพันธ์ลับของเธอกับแฟนหนุ่ม บอกว่า เหตุการณ์แพร่คลิปวีดีโอจะสร้างตราบาปให้แก่เธอไปชั่วชีวิต โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อื้อฉาว เธอต้องสูญเสียสัญญาจ้างโฆษณาสินค้า

พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนเลิกดูคลิปวีดีโอดังกล่าว “คุณคงมีลูก พี่สาว น้องสาว เพื่อนสาว หรือภรรยา ที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับพวกเขา” ดาราสาวรายรุ่ง ฟิลิปปินส์รายนี้กล่าว

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า เสียงวิงวอนของน.ส.ฮาลิลิ ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะผู้คนยังคงดูวีดีโอดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และบางรายระบุว่า เธอเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับผู้ชายทุกคนของประเทศนี้

ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์